07.30 เก็บกระเป๋าเดินไปขึ้นรถหน้าบ.Sinh Cafe สู่ฮอยอัน จุดหมายปลายทาง
08.00 ออกเดินทาง วันนี้คนไม่เยอะเท่่าไหร่ สภาพรถพอใช้ได้ เบาะนั่งเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับบ้านเรา แอร์เย็นระดับนึง
10.00 สะดุ้งตื่นช่วงที่รถต้องแล่นผ่านอุโมงค์หายเวิน อุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ภูเขาที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระยะทาง 6.28 กม.* ผมลองจับเวลาที่อยู่ในอุโมงค์รวมเวลาทั้งสิ้น 10.46 นาที (เริ่มจับตอนเข้าหัวอุโมงค์ได้สักพัก) ภายในอุโมงค์มีไฟเหลือไฟแดงด้วย ไม่รู้มีเอาไว้เพื่ออะไร ผ่านอุโมงค์มาไม่นาน รถก็มาจอดแวะให้เลือกซื้อของฝาก ที่นี่ติดทะเลด้วยเลยเก็บภาพมามีโครงการจะสร้างเป็นที่พักตากอากาศในอนาคต มีนักท่องเที่ยวบ้างเล็กน้อย ส่วนมากแค่แวะผ่านมาและผ่านไป ดูๆแล้วชะอำหรือหัวหินดีกว่า
ที่ชอบก็คือลักษณะบ้านเรือนที่นี่ ตกแต่งสีสันสวยงามแบบฝรั่งเศสมีฉากหลังเป็นภูเขา
11.00 ถึงดานัง (คนท้องถิ่นออกเสียงด่านั้ง)เมืองที่เติบโตมาจากหมู่บ้านชาวประมงจนกลายมาเป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำห่าน หลายสิ่งหลายอย่างดูเจริญหูเจริญตา
12.00 ในที่สุดก็มาถึงฮอยอัน เมืองเล็กๆมีความสงบในตัวเอง สังเกตุได้จากสถานีเดินรถโดยสาร ตกลงค่าเหมามอเตอร์ไซด์รับจ้างไปส่งที่พักได้คนละ 1 USD ไม่ไกลมาก เดินพอไหวอยู่ พี่วินแกบอกว่าแกจะพาไปดูโรงแรมที่แกแนะนำ เดิมทีไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าจะพาไปปล่อยย่านไกลผู้ไกลคนแล้วต้องโทรเรียกใช้บริการ แต่ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ แกพามาส่งโรงแรมกลางใจเมืองเลย สะอาดสะอ้านมีสระว่ายน้ำ ด้านหลังติดแม่น้ำอีกต่างหาก คืนละ 20 USD ตกลงปลงใจค้างคืนที่นี่กันซะเลย
ชื่อโรงแรม Huy Hoang River Hotel ด้านหน้าล็อบบี้มีอินเตอร์เน็ทให้ใช้ฟรี…เพิ่งมารู้สึกตัวอีกทีว่าลืมเอางอบเวียดนามที่ซื้อเมื่อวาน 3 ใบร้อยลงจากรถทัวร์
13.00 ออกไปหาอะไรกินดีกว่า พี่บอลแนะนำร้าน Hai Cafe บรรยากาศทั้งภายในและภายนอกดูดีทีเดียว แต่ก็เดินหาซะนานกว่าจะเจอ แน่นอนล่ะมาที่นี่ต้องลองชิมเกาเลากันสักหน่อย ชื่อคล้ายเกาเหลาบ้านเรา แต่หน้าตาไม่เหมือนกัน ของที่นี่เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง เส้นกลมและหนา(เกิน) มีหมูอบฝานบางๆไว้ด้านบน สุดท้ายประดิดประดอยด้วยผักสด เสิร์ฟแยกกับอะไรสักอย่างหน้าตาคล้ายๆกับแคบหมู รสชาดดีทุกอย่าง ติอยู่อย่างเดียวคือเส้นหนาเกิน กินไปนานๆอาจมีความรู้สึกเหมือนกำลังกลืนพยาธิ
ตบท้ายด้วย Saigon Bia ตั้งแต่ได้กินเบียร์เวียดนามมา ผมว่า Saigon Bia รสชาดถูกปากที่สุดละ ค่าเสียหายสุดท้ายอยู่ที่ 200,000 ด่อง
14.00 ได้เวลาออกสำรวจฮอยอัน อีกหนึ่งเมืองมรดกโลกของเวียดนาม เริ่มต้นด้วยการเช่าจักรยานกับโรงแรมที่เข้าพัก วันละ 1 USD คนเช่าให้สายล็อคล้อจักรยานพร้อมลูกกุญแจเวลาขี่ไปจอดสถานที่ต่างๆ จากนั้นก็หาซื้อบัตรเหมาเที่ยว 5 สถานที่่(จากทั้งหมด 21 สถานที่)ในราคา 5 USD** ปั่นไปเรื่อยๆ+แผนที่ใบเล็กๆในมือ(หาแผนที่ได้จากสถานีเดินรถโดยสารประจำทางหรือขอที่ล็อบบี้ของโรงแรม)
ฮอยอัน เมืองท่าสำคัญเมื่อครั้งอดีต แต่เมื่อสภาวะโลกพลิกผัน น้ำเปลี่ยนทางเดิน แม่น้ำทูโบ่นจากลึกกลับกลายเป็นตื้นเขิน เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้อีกต่อไป ทำให้เมืองดานังที่อยู่ใกล้กันกลายเป็นเมืองท่าแห่งใหม่แทน หลงเหลือไว้เพียงตึกเก่าสวยสีเหลืองสไตล์ฝรั่งเศสอายุสองร้อยกว่าปีอย่างที่เห็น จนองค์การยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกโลกมาจนถึงปัจจุบัน รู้สึกชอบเมืองนี้มากกว่าเว้เสียอีก บรรยากาศดีมาก ปั่นไปจิบเบียร์ไป ชิลล์…
ฝรั่งเศสผสมจีน
บ้านริมแม่น้ำทูโบ่น (ด้านขวามือเป็นแม่น้ำ)
สถานที่แห่งแรกที่พลัดมาเจอก็คือ Museum of Hoi An History and Culture.
ภายในรู้สึกผิดหวังเพราะไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลย ก่อนออกจากจุดนี้ ผมถามคนเช็คตั๋วว่า อีก 4 สถานที่ที่เหลือ ผมควรไปเที่ยวที่ไหนต่อ? ว่าแล้วแกก็เอาปากกาเขียนลงในแผนที่ผม สรุปมีดังนี้ 1.) Phuc Kien Assembly Hall 2.) Old House of Duc An 3.) Old House of Tan Ky 4.) Japanese Covered Bridge
จุดที่สองคือ Phu Kien Assembly Hall
ฟ้าครึ้มมาแล้ว ฝนกำลังจะตกอีกไม่นาน ทำให้ผมลนลานรีบกลับห้องไปเอากระเป๋ากันน้ำ ไม่อยากเสี่ยงเอากล้องมาพังที่ฮอยอัน
ได้ภาพรุ้งกินน้ำที่ฮอยอันมา 1 ภาพ
Hoi An’s way of life.
16.30 ใกล้เย็นแล้ว ยังไม่ได้ออกสำรวจราคาเสื้อ North Face Summit เลย บัตรเข้าชมสถานที่ก็เหลืออีกตั้ง 3 ที่ เห็นทีต้องพักเที่ยวไว้ชั่วคราวก่อน ตอนนี้ต้องเร่งหาร้านเสื้อ North Face 3 in 1 ให้ได้ซะก่อน ก็เสียเวลาอยู่ซะนานกว่าจะได้มาตัวนึง ต่อกันแล้วต่อกันเล่า จนแม้ค้าบอกท้าให้ไปหาดูร้านอื่น ถ้าเจอถูกกว่านี้ให้เอามาคืนได้เลย พูดซะจนเชื่อสนิทใจก็เลยซื้อร้านนี้เลยละกัน ไม่ต้องดูร้านอื่นละ เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะลับขอบฟ้า กว่าจะขี่จักรยานวนหาสถานที่คงมืดพอดี งั้นก็เที่ยวจุดที่อยู่ใกล้ที่สุดเลยละกัน นั่นคือ Quang Trieu Assembly Hall… ลักษณะเป็นบ้านเก่าๆที่เคยใช้จัดประชุม/รวมพลพรรคคอมมิวนิสต์
ดูอาการแล้วคงเที่ยวได้อีกแค่ 1 สถานที่ ขอเลือกเป็นสะพานญี่ปุ่นละกัน
ปั่นมาถึงเกือบหงายเงิบกันเลยทีเดียว เมื่อสะพานญี่ปุ่นสั้นกระจิดริด ไอ้เราก็คิดว่าจะอลังค์การงานสร้างเหมือนสะพานสายมรณะบ้านเราหรือไม่ก็สะพานท่าปาย ทีแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือสะพานญี่ปุ่น เห็นคนโพสต์ท่าถ่ายรูปกันเยอะ เหลือบไปดูป้ายก็เลยถึงบางอ้อ เห็นเล็กๆอย่างนี้ อายุ 400 กว่าปีแน่ะ กว่าจะได้มุมนี้มา ต้องรอนานเอาการ
ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจตุรัส เมื่อข้ามสะพานมาอีกฟากจะพบบ้านเรือนเก่าแบบญี่ปุ่นซึ่งดัดแปลงเป็นร้านรวงขายของที่ระลึกต่างๆแก่นักท่องเที่ยว เข้ามาเช็คราคาเสื้อ North Face ผ่าง!!!!!! เปิดราคามาถูกกว่าร้านที่ซื้อมาอีก ต่อดีๆเผลอๆได้ของถูกกว่าอีก นี่ตรูโดนแม่ค้าอำอีกแล้วหรอนี่???
จบจากสะพานญี่ปุ่น ยังมีตั๋วเหลืออีก 1 ใบ แต่คงเที่ยวไม่ทัน ก็เลยรีบบึ่งไปจองตั๋วดานัง ซึ่งราคาเดียวกับตั๋วไปเว้(ทั้งๆที่ไปดานังระยะทางใกล้กว่า) จากที่สอบถามหลายๆร้านได้ความว่า ปกติแล้วจะไม่มีรถวิ่งตรงไปดานังโดยเฉพาะ ต้องอาศัยรถที่วิ่งไปเว้ ฉะนั้นจึงต้องจ่ายค่าตั๋วราคาเดียวกับการนั่งรถไปเว้ ก็เหมือนกับนั่งรถรุ่งเรืองไปลงศรีราชาแต่ต้องจ่ายราคาเดียวกับคนที่ไปลงพัทยา รอบนี้จองตั๋วกับบริษัท An Phu
ฮอยอันยามค่ำคืนในมุมมองของผมนั้นสวยถึงสวยมาก ทุกร้านจะเปิดไฟสีส้ม สีแดง ระยิบระยับ ประดับประดาด้วยโคมไฟทรงกลมแบบจีน บวกกับบ้านเรือนทรงโคโลเนียล เห็นแล้วนึกเสียดายที่ไม่ได้เอาขาต้ังกล้องมาด้วย เป็นที่สังเกตุว่าที่นี่จะเปิดไฟแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หลังสองทุ่มแทบทั้งเมืองที่สว่างไสวก็มืดสนิท
กลับมาถึงโรงแรมก็พบว่าทำกุญแจล็อคจักรยานหาย!! โดนปรับไปตามระเบียบ จากนั้นออกมานั่งดื่มเบียร์ตรงข้ามโรงแรม มีโอกาสได้รู้จักสองผัวเมียชาวเนเธอร์แลนด์โต๊ะข้างๆ แม้ว่าทั้งคู่จะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ยังดูรักกันมากๆเหมือนหนุ่มสาว แอบมีมุมมาสวีทกันถึงเวียดนามกันสองต่อสอง ถามไปถามมา อ้าว! พูดไทยได้ด้วย!! ทั้งสองได้มาพักอยู่ที่จ.สุรินทร์ได้ราาวๆ 3-4 ปี ฝ่ายภรรยาบอกว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือออกเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง …ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาซะที่สุด
ปล. ประทับใจเมืองนี้ซะเหลือเกิน ผู้คนก็น่ารัก ไม่จ้องจะฟันนักท่องเที่ยวเหมือนเมืองใหญ่ๆ
*ที่มา : wikipedia.com
**ตั๋วเหมาเที่ยว 5 สถานที่ในราคา 5 USD นั้นเราจะได้ตั๋วมา 5 ใบ ซึ่งเราต้องยื่นให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละสถานที่ๆเราไป นั่นหมายความว่า เราไม่สามารถไปซ้ำที่เดียวกันได้ (หากจะเข้าครั้งที่สองต้องเสียตั๋วเพิ่มอีก 1 ใบ)
Trick :
1. การเที่ยวฮอยอันโดยจักรยานถือเป็นวิธีที่เหมาะที่สุด
การเขียนที่มาจากความรู้สึกไม่ได้ปรุงแต่ง….อ่านแล้วเพลินดีกดLikeให้เลย
ขอบคุณค้าบ แล้วตามอ่านตอนต่อๆไปด้วยนะ
ไม่มีรูปสาวๆให้ดูมั่งอะครับ อิอิบรรยกาศดีก็ต้องมีสาวสวย ล้อเล่นนะครับ อยากทราบว่าถ้าอยากไปเที่ยวแบบสบายๆสัก10วันนี้ต้องมีงบค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เอ่ย
ผมไป 8 วัน ค่าใช้จ่ายไม่ถึงหมื่น
ส่วนรูปสาวๆต้องหลังไมค์นะครับ 555
อานะเป็นงั้นไป อิอิ
เวียดนาม สาวๆ น่ารักครับ