ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเมืองไทยร้อนระอุ เมื่อ Great Wall Motors บุกไทย

ladpdhybnlxtpupnahfnaya_800_535

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันสินค้าและแบรนด์จากเมืองจีนเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้เล็กๆน้อยๆในบ้าน รวมไปถึงชิ้นใหญ่ อย่างเช่น รถยนต์

วันนี้เราจะมาพูดถึงการเข้ามาของแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนอย่าง Great Wall Motors ที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดต่อจาก MG ที่เคยเข้ามาบุกตลาดรถเมืองไทยก่อนหน้านี้ 7 ปี

งานนี้ทำให้ค่ายผู้ผลิตรุ่นเก๋าจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มิตซูบิชิ มาสด้า และนิสสัน ต้องร้อนๆหนาวๆ เพราะมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าแบรนด์จีนได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมย้อนไปไกลหน่อยสัก 20-30 ปีที่แล้ว คนจะมองว่าสินค้าจากจีนเป็นสินค้าคุณภาพแย่ที่มีราคาถูก แต่ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆเลยก็คือ ยอดขายโทรศัพท์สมาร์ท โฟนทั่วโลก 5 อันดับแรก เป็นแบรนด์จากประเทศจีนไปแล้ว 3 แบรนด์

และต่อจากนี้ ทางเกรท วอลล์ เองก็จะมายกระดับมุมมองของผู้บริโภคไทยต่อสินค้าจีน จากสินค้าคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล ให้กลายเป็น สินค้าระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ ด้วยการขนเอาเทคโนโลยีที่มี มายัดใส่ลงไปในยานยนต์ของพวกเขา


swarovski-blue1_desktop_24mar-vert

แว๊บแรกที่เห็นรถ Haval H6 ขับโฉบผ่านไป ความรู้สึกแรก คือ ดูดีมีสกุลมากๆ แม้ไม่ได้สวยว้าว แต่ดูแพง ดูพรีเมียม ด้านหน้ามีความเป็น Audi ด้านข้างดูคล้าย Range Rover ส่วนด้านหลังมีความเป็น Porsche + Volvo (ก็แน่ละ คนออกแบบเป็นวิศวกรที่ย้ายมาจาก Range Rover) สมแล้วกับตำแหน่งรถ SUV ยอดขายอันดับ 1 ต่อเนื่องถึง 7 ปีซ้อนในประเทศจีน1 และการเข้ามาบุกตลาดไทยในครั้งนี้ ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาพร้อมกับเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยรถที่จะนำมาขายนั้น จะเน้นเป็นรถพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น HEV, PHEV, BEV

กลายเป็นว่า จีนจะมาโค่นจีนด้วยกันเองซะแล้ว เพราะ MG เองก็ยืนหนึ่งในด้านนี้อยู่ โดยยึดส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 88% ในปี 25632

ก็ต้องรอดูในระยะต่อๆไปว่าเกรท วอลล์จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ การที่มีแบรนด์ในตลาดเพิ่มขึ้นมาอีก 1 แบรนด์ หมายความว่า ยอดขายของแบรนด์ต่างๆก็จะถูกแบ่งไปให้แบรนด์ใหม่ไม่มากก็น้อย เหมือนอย่างที่ตอน MG เข้ามาทำตลาดในไทยใหม่ๆเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ช่วงแรกๆก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่สุดท้ายก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่ม Compact SUV แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Honda CR-V ในปี 2563 ส่วนกลุ่ม Subcompact SUV อย่าง MG ZS ก็คว้ายอดขายอันดับสอง เป็นรองเพียงโตโยต้าเท่านั้น

และในปีนี้ผ่านมาแล้วเกินกว่าครึ่งทาง ทุกค่ายต่างพากันทำโปรโมชั่นอย่างหนักเพื่อที่จะปิดยอดปี 2564 และดึงส่วนแบ่งมาครองให้ได้มากที่สุด ซึ่งการที่มีเกรท วอลล์เพิ่มเข้ามา ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว

มาดูกันว่า เกรท วอลล์ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรไว้บ้าง

GWM takes GM

  • มิถุนายน 2563 ปิดดีลเมกะโปรเจคท์ซื้อโรงงานจาก GM มูลค่าเท่าใดไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดเดาว่าระดับพันล้านบาท!
  • กันยายน 2563 เมื่อ GM จ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานเรียบร้อย ก็ได้ส่งมอบโรงงานให้กับเกรท วอลล์ และทางเกรท วอลล์ก็ได้ดำเนินการรีโนเวทโรงงานใหม่ทั้งหมด ให้เป็น Smart Factory ที่นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานและประยุกต์ใช้
  • มีนาคม 2564 เอา Haval H6 SUV ระบบไฮบริดมาเปิดตัวให้คนไทยได้เห็นก่อนใครในโลกที่งานมหกรรมยานยนต์ระด้บประเทศอย่าง Motor Expo ครั้งที่ 42 และได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับคอรถ SUV

Smart Factory

  • มิถุนายน 2564 เริ่มผลิต Haval H6 คันแรกโดยคนไทย และปลายเดือนสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการประกาศราคาออกมาเชือดเฉือนคู่แข่งด้วยราคาไม่ถึง 1.3 ล้านบาท(รุ่นท็อป) ขณะที่เจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V ราคาเริ่มต้นก็ปาเข้าไป 1.3 ล้านบาทแล้ว และรุ่นท็อปสุด ราคาโดดไปเกือบๆ 1.8 ล้านบาทเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ เกรท วอลล์ยังอัดเทคโนโลยีและออฟชั่นต่างๆมาพร้อมตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นยันรุ่นท็อป แตกต่างจากรถญี่ปุ่นที่มักจะกั๊กเอาบางออฟชั่นเอาไว้ให้เฉพาะรุ่นท๊อปๆเท่านั้น เชื่อว่าจากนี้ เราจะได้เห็นค่ายญี่ปุ่นเอาออฟชั่นและเทคโนโลยีที่เคยกั๊กไว้มาใส่รุ่นเริ่มต้นมากขึ้น เพื่อแข่งขันการเป็นเจ้าตลาด
  • กรกฏาคม 2564 เปิดขายเดือนแรกก็ขึ้นแท่นอันดับ 2 กลุ่มรถ Compact SUV (Haval H6)ด้วยยอดขาย 320 คัน ทิ้งห่างผู้เล่นหน้าเก่าอย่าง Subaru Forester, Mazda CX-5, Mazda CX-8, Mitsubishi Outlander หลักร้อยคัน (เป็นรองเพียง Honda CR-V เท่านั้น)
  • สิงหาคม 2564 ขึ้นแท่นอันดับ 1 กลุ่มรถ Compact SUV แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Honda CR-V (เหตุผลส่วนหนิ่ง คือ Honda ไม่มีชิพเลยทำให้ส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้น้อย) และหลังจากเปิดขายได้เพียงแค่ 2 เดือน ก็ทำยอดขายสะสมแซงหน้า Mazda CX-5, Mazda CX-8 และ Mitsubishi Outlander ที่ขายมาทั้งปี!

Orra Good Cat

ปลายเดือนตุลาคมนี้ เกรท วอลล์ยังเตรียมหมัดเด็ด ด้วยการนำรถรุ่นที่สองต่อจาก Haval H6 นั่นคือ Orra Good Cat ซึ่งรถรุ่นนี้จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% โดยจะนำเข้ามาจากจีนทั้งคัน เคลมว่าขับได้ระยะทางกว่า 400 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครัั้ง! ส่วนเรื่องราคานั้น ต้องรออีกนิดว่าเกรท วอลล์จะดีดออกมาที่เท่าไหร่

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เราอาจจะเห็นรถค่ายญี่ปุ่นปรับราคาสู้ หรือไม่ก็ขายราคาเดิม เพิ่มเติมออฟชั่นให้เยอะขึ้น มากขึ้น และอีกใน 2 ปีข้างหน้า เกรท วอลล์ยังมีรถอีก 7 รุ่นที่จะนำมาเปิดตัว รับรองว่าตลาดยานยนต์ไทยทุก Segment ต้องร้อนระอุอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคอย่างเราก็ได้อานิสงค์ไปเต็มๆ

1. ที่มา gwm-global.com

2. ที่มา brandinside

***เครดิตภาพ Great Wall Motors***

ใส่ความเห็น